สืบเนื่องจากกรณีที่มีเด็กนักกีฬานักฟุตบอลและโค้ช รวม 13 ชีวิต ได้สูยหายเข้าไปในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงรายนั้น
หากย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 12 กรกฎาคม 2016 หรือ 2 ปีที่แล้ว ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Piyavit Srisanyong เคยโพสต์รูปภาพพร้อมทั้งระบุข้อความทั้งหมดเอาไว้ว่า
ระหว่าที่ขับรถอยู่นั้น....ก็ไม่รู้เป็นอะไร....ขับรถไปเรื่อยๆ. เกือบ. 60. กิโล. จู่ๆภาพนึงก็ปรากฏในหัว. เป็นถ้ำใหญ่. ซึ่งอยู่ติดชายแดนพม่า. ถ้ำนี้คือถ้ำหลวง. เคยไปมาแล้ว. แต่วันนี้ไม่กล้าเข้าไป. เพราะเย็นมากแล้ว. เพราะเคยได้ฟังเรื่องราวอาถรรพ์ ของที่นี่. แล้วก็มีคนตายทีนี่ถึง. 7. คน......
พยายามจะไม่คิดถึงที่นี่....แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหว. เลยต้องเลี้ยวรถกลับไป. ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา. 6. โมงเย็น. ใจนึงก็กลัว. แต่ไม่รู้ทำไมอยากไปที่นั่น. ระหว่างที่ขับรถไป. มีอาการเหมือนจะเป็นจิตประสาท. เหมือนมีอะไรมาคุยกับเรา. แล้วบอกว่า....เอาไข่ไก่. กับ ดอกไม้ ไปด้วยนะ...ท่านรออยู่......ใครล่ะ! ใครที่รอเรา?......
ขับรถไปร้านค้าก็ปิดเกือบหมดแล้ว. เพราะต้องเข้าไปในหุบเขา.....โชคดีมีร้านนึงเปิดอยู่. ก็เลยไปขอซื้อไข่. 5. ฟอง. แล้วก็ธูปเทียน. พี่เจ้าของร้านถามว่า...แล้วดอกไม้มีรึยัง. ผมบอกว่า....ไม่มีครับ. แกก็เลยไปเก็บดอกไม้มาให้. แล้วก็ถามว่าจะเอาไปไห้วอะไร?....จะเอาเข้าไปในถ้ำครับ. แกมองหน้า....เหมือนจะรู้อะไร. แล้วก็เดินไปหยิบกระดาษมาพับเป็นกระทง. เอาไข่ใส่. เอาดอกไม้ใส่. มายื่นให้แล้วบอกว่า.....รีบไปนะ. เดี๋ยวจะค่ำ มันอันตราย........
เดินเข้ามาถึงปากถ้ำด้านใน. เอาดอกไม้กับไข่วางที่หน้าถ้ำแล้วจุดธูปบอกท่านว่า....วันนี้ลูกมีความทุกข์ใจหลายเรื่องเหลือเกิน. ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว. ก็เลยมาไห้วสิ่งศักดิ์์สิทธิ์ที่นี่เพื่อขอพร. ขอให้มีสติปัญญา. แก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้......
แล้วจู่ๆ.....ความรู้สึกก็บอกว่า.....ให้เดินเข้าไปข้างใน. ตอนนี้กลัวมาก. แต่มาถึงนี่แล้ว. ก็เข้าไปซักหน่อย. ข้างในมืดมาก. มีเพียงแค่ไฟฉายจากโทรศัพท์. ดวงเดียว. เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆจนรู้สึกหายใจลำบาก. เพราะอากาศเริ่มน้อยลง. จึงหยุดเดินแล้วยกมือไห้ว จู่ๆก็มีลมจากโพรงถ้ำออกมาโดนตัว. จนรู้สึกหนาว. จึงรีบเดินออกมา. ระหว่างนั้น. เหมือนมีอะไรเลื้อยอยู่ที่พื้น. เสียงดัง...ครึดๆ. ทั้งข้างหน้าข้างหลังตลอดเวลา. ตอนนี้กลัวมาก. แต่ก็บอกท่านว่า....ผมจะกลับแล้วคุ้มครองผมด้วยนะครับ
พอออกมาจนจะถึงโถงด้านหน้าของถ้ำ.....ก็เอาโทรศัพท์มาถ่ายรูป. จู่ๆก็มีแสงวิ่งเป็นเส้นยาวๆผ่านหน้าแล้วโทรศัพท์ก็ดับไป.....เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก. เพราะไม่นึกว่าจะใช่. เพราะเห็นด้วยตาเนื้อ. แต่ก็ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง. และไม่ขอสรุป. ให้เพื่อนๆดูจากภาพก็แล้วกันนะครับ. บางภาพที่เอามาให้ดูเป็นภาพที่ถ่ายด้วยตัวเอง. .....
พิจารณาดูจากภาพถ่ายนะครับ......
No comments:
Post a Comment